
ไทเกอร์ วูดส์ พาลูกสาวกับลูกชาย ไปเจอลีโอเนล เมสซี่ นักฟุตบอลหมายเลขหนึ่งของโลก ในเดือนกรกฎาคม 2017 ตอนที่สโมสรบาร์เซโลน่ามาเก็บตัวช่วงปรีซีซั่น ที่ฟลอริด้า
ลูกสาว-แซม กับ ลูกชาย-ชาร์ลี เตะฟุตบอลตั้งแต่เด็ก และพวกเขาก็อยากเจอนักเตะอัจฉริยะอย่างเมสซี่สักครั้ง ดังนั้นไทเกอร์จึงใช้พาวเวอร์ ในฐานะนักกีฬาที่มีชื่อเสียง ช่วยจัดแจง จนลูกๆ ทั้ง 2 คน ได้เจอและได้ถ่ายรูปกับเมสซี่ในที่สุด
ไทเกอร์ดีใจมากที่ช่วยสานฝันให้ลูกได้สำเร็จ เขายิ้มอย่างมีความสุข แล้วหันไปถามแซมว่า “มันสุดยอดไปเลยใช่ไหม ที่ได้เจอกับตำนานที่มีชีวิต”
แซมหันมาตอบพ่อว่า “ใช่แล้ว แต่พ่อลืมไปไหม ว่าหนูกับชาร์ลี ก็อยู่บ้านเดียวกัน กับตำนานที่มีชีวิตนะ”
ไทเกอร์ หัวเราะที่ลูกสาวตอบแบบเอาใจพ่อ แต่ในเวลาเดียวกัน มันก็ทำให้เขาฉุกคิดขึ้นมาว่า ลูกๆ ทั้งสองคน เคยแต่ได้ยินเรื่องเล่าของเขา ว่าเป็นตำนานอย่างนั้น อย่างนี้ แต่ไม่เคยได้สัมผัสจริงๆ ว่าพ่อของตัวเองเก่งแค่ไหนในสนามกอล์ฟ
ตอนที่ไทเกอร์ ได้แชมป์เมเจอร์ 14 รายการ แซมยังเด็กเกินไปที่จะจำอะไรได้ ส่วนชาร์ลี ยังไม่เกิดด้วยซ้ำ
ดังนั้นมันจะดีแค่ไหนนะ ถ้าลูกๆ ได้เห็นอีกสักครั้งด้วยตา ว่าพ่อของพวกเขา คือสุดยอดนักกอล์ฟหมายเลขหนึ่งของโลก
นี่คือ EP8 และเป็นตอนจบของซีรีส์ กุลธิดา – ไทเกอร์ วูดส์ กับชีวิตอันเต็มไปด้วยสีสันของอัจฉริยะแห่งวงการกอล์ฟ
——————
หลังจากหย่าร้างกับเอลิน นอร์เดเกร็น ชีวิตของไทเกอร์ก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ปัญหานอกสนาม ส่งผลต่อการเล่นกีฬาอย่างชัดเจนมาก
แชมป์พีจีเอทัวร์ รายการสุดท้ายของไทเกอร์ คือ ศึก WGC-บริดจ์สโตน อินวิเทชันนอลในปี 2013 จากนั้น เขาก็ไม่ได้แชมป์อะไรอีกเลย 4 ปีเต็มๆ
สภาพจิตใจก็เรื่องหนึ่ง แต่สภาพร่างกายก็เป็นปัญหาที่หนักหนาไม่แพ้กัน ไทเกอร์ได้รับบาดเจ็บที่หมอนรองกระดูกขั้นเรื้อรัง จนไม่สามารถเล่นกอล์ฟได้ พอเข้ารับการรักษา แป้บเดียวก็เจ็บซ้ำอีก สุดท้ายต้องเข้ารับการผ่าตัดใหญ่ 2 ครั้ง แล้วพักยาวไปนานเป็นปีๆ
หลังผ่าตัดเสร็จ ร่างกายยังคงเจ็บปวดอย่างสาหัส อาการเจ็บทำให้เขาต้องกินยาแก้ปวดหลายขนาน และมีครั้งหนึ่งที่เขาเทกยาหนักเกิน แล้วไปขับรถ จนหมดสติคาพวงมาลัย จึงโดนตำรวจแจ้งข้อหา DUI ในเดือนพฤษภาคม 2017
ตอนแรก ไทเกอร์ก็คิดเหมือนกันว่า หรือเราเลิกเล่นกอล์ฟไปเลยดีมั้ย เรื่องเงินทองก็ไม่มีปัญหาแล้ว เขามีสินทรัพย์เก็บสะสมไว้ มากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ และมีธุรกิจอื่นๆ มากมาย เช่น รับจ้างออกแบบสนามกอล์ฟทั่วโลก
คือไม่ต้องกลับมาตีกอล์ฟ ก็มีเงินเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้ตลอดชีวิต อย่างไรก็ตาม ในวันที่ไปเจอลีโอเนล เมสซี่ ทำให้ไทเกอร์ตัดสินใจได้ ว่าจะลองกลับมาสู้ดูอีกสักครั้ง
ในกีฬากอล์ฟ จะมี 4 รายการที่ยิ่งใหญ่ที่สุด และมีประวัติศาสตร์ยาวนาน เราเรียกมันว่า “รายการเมเจอร์” ก็คล้ายๆ กับ แกรนด์สแลมของกีฬาเทนนิสนั่นเอง
4 เมเจอร์ของกอล์ฟ ประกอบด้วย เดอะ มาสเตอร์ส, ยูเอส โอเพ่น, บริติช โอเพ่น และ พีจีเอ แชมเปี้ยนชิพ
นักกอล์ฟที่คว้าแชมป์เมเจอร์ได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ คือ แจ๊ค นิคลอส ทำได้ 18 รายการ ส่วนไทเกอร์ นับจนถึงปี 2008 ตอนเขาอายุ 32 ปี ไทเกอร์คว้าไปแล้ว 14 รายการ
ช่วงที่ไทเกอร์พุ่งทะยานขึ้นมา เขาคือปรากฏการณ์เพราะเป็นนักกอล์ฟที่สมบูรณ์แบบที่สุด เขาไดรฟ์ได้ทรงพลัง พัตต์ก็เก่ง คุณหาจุดอ่อนจากไทเกอร์ไม่ได้เลย ไม่แปลกที่จะได้แชมป์เมเจอร์รัวๆ ขนาดนั้น
หลังจากได้แชมป์เมเจอร์ 14 รายการ ด้วยอายุแค่ 32 ปี ทำให้ใครๆ ก็มั่นใจว่า ไทเกอร์ทำลายสถิติเดิมของแจ๊ค นิคลอสได้แน่ คว้าแชมป์อีกแค่ 5 รายการก็แซงได้แล้ว
แต่พอไทเกอร์ มีปัญหาเรื่องเล่นชู้กับผู้หญิง 120 คน ในปี 2009 ชีวิตของเขาก็ดิ่งเหว เมื่อผสมกับอาการบาดเจ็บ ทำให้เขาไม่สามารถกลับไปคว้าแชมป์เมเจอร์ได้อีกเลย เหมือนกับว่าโอกาสของเขาจะจบลงแล้ว
หลังจากไม่ได้จับไม้กอล์ฟมายาวนานมาก แต่เมื่อเขามีแพสชั่นในใจ ว่าอยากทำให้ลูกๆ ได้เห็นว่าพ่อเก่งยังไง ในที่สุด เดือนพฤศจิกายน 2017 ไทเกอร์ วัย 41 ปี ก็เริ่มนับหนึ่งอีกครั้ง ด้วยการลงแข่งขันทัวร์นาเมนต์การกุศล ชื่อ Hero World Challenge ที่บาฮามาส
คนในวงการกีฬาตื่นตะลึงมาก เพราะคิดว่าไทเกอร์จะรีไทร์ไปแล้ว
สเตฟเฟ่น เคอร์รี่ นักบาสจากโกลเด้น สเตท วอร์ริเออร์ส ทวีตว่า “การรอคอยสิ้นสุดแล้ว” ส่วน ไมเคิล เฟลป์ส นักว่ายน้ำเหรียญทองโอลิมปิกบอกว่า “ตื่นเต้นไม่ไหวแล้วที่จะได้เห็นไทเกอร์ วูดส์ กลับมาสู่สนามกอล์ฟอีกครั้ง”
ขณะที่บรรยากาศรอบตัวของไทเกอร์ ก็เปลี่ยนไปจากเดิมเยอะ ในช่วงที่มีข่าวเล่นชู้ช่วงแรกๆ เขาโดนสาปส่ง โดนแซะ โดนล้อเลียน แต่เหตุการณ์นั้นก็ผ่านมาแล้ว 8 ปี ไทเกอร์ชดใช้ความผิดของตัวเองไปแล้ว สังคมด่าไปแล้ว ส่วนภรรยาก็หย่ากันไปแล้ว
ในวันนี้เขาเป็นคนใหม่แล้ว และพิสูจน์ให้เห็นว่า แม้จะเป็นสามีที่ไม่ค่อยดี แต่เขาเป็นคุณพ่อที่ยอดเยี่ยม ดูแลลูกๆ ทั้งสองคนอย่างสุดความสามารถ
ดังนั้นสำหรับแฟนกอล์ฟทั่วไป ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะต้องไปเหยียบเขาซ้ำๆ ไม่รู้จบ หลายคนหันมาให้กำลังใจไทเกอร์ในการคัมแบ็กครั้งนี้
25 มกราคม 2018 ไทเกอร์ลงแข่งอาชีพ รายการแรกในรอบ 2 ปี ในศึกฟาร์เมอร์ส อินชัวแรนซ์ โอเพ่น ที่สนามทอร์เรย์ พายน์ส ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ปรากฏว่า แฟนๆ รุมซื้อตั๋วจน sold out เพราะผู้คนอยากเห็นการคัมแบ็กของพญาเสือ ว่าเขายังคงมีเขี้ยวเล็บอยู่แค่ไหน
เมื่อไทเกอร์ กลับมาร่วมแข่งขัน เขาถึงได้รู้ว่า ช่วงที่หายไป มีดาวรุ่งหน้าใหม่ขึ้นมาเขย่าวงการเต็มไปหมด ทั้งรอรี่ แม็คอิลรอย, ดัสติน จอห์นสัน, ริคกี้ ฟาวเลอร์ และ จอน ราห์ม อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้มาแข่งกับดาวรุ่งพวกนั้น ไทเกอร์แค่ต้องการสู้กับตัวเอง หาจังหวะเก่าๆ ของเขาคืนกลับมาให้ได้แค่นั้นพอ
สิ่งที่เปลี่ยนไปในตัวของไทเกอร์ คือ จิตใจของเขาสงบลงกว่าเดิม ในวัย 40s เขาไม่เลือดร้อนเท่าเดิม ไม่หงุดหงิดกับอะไรอีกแล้ว
ในการแข่งขันวันแรกที่ทอร์เรย์ พายน์ส หลุม 13 พาร์ 5 ไทเกอร์พัตต์ช็อต 5 เพื่อเอาพาร์ จากระยะ 2 ฟุตครึ่ง ปรากฏว่าเขาตีพลาด ซึ่งถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงโมโหมากๆ แต่ในคราวนี้ เขาไม่ได้แสดงอารมณ์กราดเกรี้ยวอะไรเลย พอตีโบกี้เสร็จ เขาก็เดินไปเก็บลูก แล้วเดินไปที่หลุม 14 ต่อ ระหว่างทาง เจอทหารเรือกลุ่มหนึ่งที่เข้ามาดูการแข่งขัน ไทเกอร์หยุดแล้วพูดคุย ทักทาย กับทหารกลุ่มนั้นอย่างเป็นกันเอง
นักข่าวคนหนึ่งที่อยู่ในเหตุการณ์บอกว่า “ไทเกอร์ไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน แต่ตอนนี้ เขาเอ็นจอยกับทุกสิ่งที่อยู่รอบตัว”
ไทเกอร์จบอันดับ 23 ในรายการฟาร์เมอร์ส อินชัวแรนซ์ โอเพ่น และจากนั้น เขาก็กลับมาลงแข่งขันเต็มรูปแบบ เดินสายไปแข่งพีจีเอ ทัวร์ ตลอดทั้งปี
นั่นทำให้แฟนๆ ได้กลับมาเห็นภาพที่คุ้นเคยอีกครั้ง นั่นคือ กุลธิดา วูดส์ สาวเอเชียวัย 70 กว่าๆ ที่เดินตามไปเชียร์ลูกชายในทุกหลุม ทุกสนาม
ไทเกอร์ ค่อยๆ จับจังหวะของตัวเองมากขึ้นได้เรื่อยๆ คนที่เป็นอัจฉริยะ แม้จะห่างหายจากการเล่นกอล์ฟไปนาน แต่พอกลับมาเล่นได้แป้บเดียว มันก็คลิกได้ไม่ยาก
เข้าสู่เดือนเมษายน 2019 ไทเกอร์อายุ 43 ปี ได้สิทธิ์ร่วมลงแข่งรายการ เดอะ มาสเตอร์ส
เดอะ มาสเตอร์ส เป็นเมเจอร์ที่มีความพิเศษกับไทเกอร์มากๆ เพราะเป็นแชมป์เมเจอร์ รายการแรกในชีวิตนักกอล์ฟของเขา
ในเมเจอร์ อีก 3 รายการที่เหลือ ผู้จัดจะเปลี่ยนสนามแข่งไปเรื่อยๆ แต่กับเดอะ มาสเตอร์ส จะเป็นเมเจอร์รายการเดียว ที่จะเล่นที่สนามเดิม นั่นคือสนามออกัสต้า ในรัฐจอร์เจีย เท่ากับว่าไทเกอร์ ได้โอกาสกลับมายืนสนามเดิมที่เขาคุ้นเคยอีกครั้ง
สำหรับทัวร์นาเมนต์ เดอะ มาสเตอร์ส ปี 2019 เป็นอีเวนต์ที่ไทเกอร์ ตั้งใจมากๆ เพราะเขาเองไม่รู้ว่าจะเล่นกอล์ฟไปได้อีกนานแค่ไหน วัย 43 ในวงการกีฬาอาชีพ ก็ถือว่าแก่แล้ว ขณะที่อาการบาดเจ็บที่แผ่นหลัง มันจะกำเริบอีกเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ บางที นี่อาจเป็นโอกาสสุดท้ายของเขาที่จะได้แข่งเมเจอร์แล้วก็ได้
การแข่งเดอะ มาสเตอร์ส 2019 เริ่มต้นขึ้น ไทเกอร์มีผลงานดังนี้
[ จบวันที่ 1 (18 หลุม) – 2 อันเดอร์พาร์ อันดับ 11 ร่วม ]
ไทเกอร์ทำได้ 2 อันเดอร์พาร์ ตามหลังผู้นำอยู่ 4 สโตรก ถือว่าเป็นผลงานที่โอเคแล้ว สื่อสหรัฐฯ วิเคราะห์ว่าโอกาสที่ไทเกอร์จะเข้าป้ายคว้าแชมป์ อยู่ที่ 3.2% ขณะที่ตัวไทเกอร์บอกว่า “ผมแฮปปี้ และรู้สึกว่าคอนโทรลลูกได้ดีนะ”
[ จบวันที่ 2 (36 หลุม) – 6 อันเดอร์พาร์ อันดับ 6 ร่วม ]
ไทเกอร์ตีได้ดีขึ้น เขาจบรอบที่ 2 ด้วยการไม่มีโบกี้แม้แต่หลุมเดียว ไล่จี้ผู้นำเหลือแค่ 1 สโตรกเท่านั้น แต่ผู้คนก็ยังมองข้ามไทเกอร์ เพราะเชื่อว่า พอเข้าวันที่ 3 และ 4 ร่างกายของไทเกอร์ก็อาจจะทรุดลง จนตีพลาด
[ จบวันที่ 3 (54 หลุม) – 11 อันเดอร์พาร์ อันดับ 2 ร่วม ]
ฟรานเชสโก้ โมลินารี่ ขึ้นนำเป็นอันดับ 1 ด้วยสกอร์ 13 อันเดอร์พาร์ คือโมลินารี่กำลังมีความมั่นใจ เขาเพิ่งคว้าแชมป์เมเจอร์ พีจีเอ แชมเปี้ยนชิพ มาสดๆ ร้อนๆ สื่อสหรัฐฯ ฟันธงว่าโมลินารี่ มีโอกาสคว้าแชมป์ 37.9% ส่วนไทเกอร์ อยู่ที่ 17.2% เท่านั้น
สถิติบอกว่า ไทเกอร์ไม่เคยได้แชมป์เมเจอร์แม้แต่รายการเดียว ถ้าจบวันที่ 3 แล้วเขายังตามหลังคู่แข่งอยู่
[ เข้าสู่วันที่ 4 (72 หลุม) วันสุดท้ายของเดอะ มาสเตอร์ส ปี 2019 ]
กองเชียร์เข้ามาในสนามอย่างล้นหลาม ไทเกอร์ออกรอบพร้อมกับฟรานเชสโก้ โมลินารี่ ทั้งคู่จะดวลกันไปเรื่อยๆ จนครบ 18 หลุม
เสื้อที่ไทเกอร์ใช้ลงแข่งในวันสุดท้าย คือ สีแดงสด โดยสาเหตุที่เขาเลือกสีนี้ เป็นเพราะข้อตกลงที่เขามีกับกุลธิดานั่นเอง
ช่วงวัยรุ่นไทเกอร์ไม่ชอบใส่สีแดง เพราะมันสดเกินไปในสนามกอล์ฟ แต่กุลธิดาบอกว่า “สีแดง คือสีแห่งพลังของลูก ตั้งแต่สมัยเยาวชน ลูกใส่สีแดงทีไรก็ชนะตลอด” เธออยากให้ลูกใส่สีแดงลงแข่งทุกครั้ง
ไทเกอร์เลยมีข้อตกลงกับแม่ เขาบอกว่า ‘โอเค แม่ งั้นเรามาตกลงกัน ผมจะใส่เสื้อสีแดงเฉพาะในรายการใหญ่ๆ เท่านั้น หรือไม่ก็ในการแข่งรอบสุดท้ายวันอาทิตย์ เพราะผมคงใส่สีแดงทุกวันไม่ได้จริงไหม?’ ซึ่งกุลธิดาตอบว่า ‘ก็ได้ งั้นใส่สีแดงวันสุดท้ายก็แล้วกัน’
การแข่งเดอะ มาสเตอร์ส วันสุดท้าย ที่เขามีลุ้นแชมป์ ทุกอย่างตรงเงื่อนไขที่ตกลงกับแม่ไว้ทั้งหมด นั่นคือเหตุผลที่ไทเกอร์ ตัดสินใจใส่สีแดงลงแข่งขันนั่นเอง
ในการออกรอบ วันที่ 4 ปรากฏว่าไทเกอร์ เล่นผิดพลาดอย่างรวดเร็ว ออกโบกี้หลุม 4 และ หลุม 5 ติดต่อกัน ขณะที่โมลินารี่เก็บพาร์ได้ทั้งหมด ยังไม่พลาดเลย สถานการณ์ลุ้นแชมป์จึงเสียเปรียบทันที
คนที่กระตุ้นให้ไทเกอร์ มีฮึดขึ้นมา คือแคดดี้ ชื่อ โจ ลาคาว่า
โจ ลาคาว่า เป็นแคดดี้ที่ภักดีกับไทเกอร์มากที่สุด ตอนที่ไทเกอร์มีข่าวเรื่องผู้หญิง ตามด้วยบาดเจ็บจนไม่ได้เล่น 2 ปี เขาก็ไม่ไปเป็นแคดดี้ให้คนอื่น แต่รออยู่อย่างนั้น รอสักวันที่ไทเกอร์จะกลับมาเล่นกอล์ฟอีกครั้ง
ไทเกอร์เล่าว่า “หลังจบหลุม 5 โจ ได้พูดบางอย่าง ที่ผมไม่อาจเล่าให้ฟังได้ จากนั้นผมก็เข้าห้องน้ำไป แล้วประมวลผล ก่อนจะเอาคำพูดของโจ มากระตุ้นตัวเองซ้ำแล้วซ้ำอีก เมื่อออกจากห้องน้ำมา ผมรู้สึกดีขึ้นกว่าเดิมเยอะ”
สื่อมวลชนมีการวิเคราะห์กันว่า โจ ลาคาว่า พูดอะไร? แต่ก็ยังเดาไม่ได้ จนถึงปัจจุบันนี้
หลังพลาด 2 โบกี้ติดๆ กัน ไทเกอร์ตั้งสติได้ แล้วกลับมาเก็บเบอร์ดี้ หลุม 7 และ หลุม 8 เขายังไม่ยอมแพ้ ทำแต้มไล่เกาะโมลินารี่อยู่เรื่อยๆ ไม่ยอมห่าง
เข้าสู่ หลุม 12 พาร์ 3 นี่คือหลุมที่ท้าทายที่สุดในเดอะ มาสเตอร์ส เพราะจากจุดทีออฟไปถึงกรีน จะมีบ่อน้ำขวางกั้นอยู่ ถ้าหากคุณตีพลาด น้ำหนักไม่ดี ลูกกอล์ฟมีโอกาสตกน้ำ แล้วก็อาจ ทำแต้มติดลบได้เลย
ใน 3 วันแรก โมลินารี่ไม่พลาดหลุมนี้เลย ทำได้ดีตลอด แต่พอมาวันสุดท้าย ด้วยแรงกดดันที่รุมเร้า ทำให้เขา “ตีตกน้ำ” ออกดับเบิ้ลโบกี้เฉยเลย ขณะที่ไทเกอร์ เยือกเย็นกว่า นิ่งกว่า เขาเก็บพาร์ได้ ทำให้สถานการณ์ในตาราง ทั้งสองคนกลับมาเสมอกันที่ 11 อันเดอร์พาร์
เข้าสู่ หลุม 15 พาร์ 5 ตอนนี้โมลินารี่จิตหลุดไปแล้ว ปกติหลุมนี้เขาตีเบอร์ดี้ได้ทุกครั้ง แต่มารอบนี้ กลับตีเข้าป่า อยู่ๆ ก็คอนโทรลลูกไม่ได้ขึ้นมาเฉยๆ แล้วออกดับเบิ้ลโบกี้ไปอีกหลุม ขณะที่ไทเกอร์ มีสมาธิมาก ตีอย่างมั่นคง และเก็บเบอร์ดี้ได้สำเร็จ ขึ้นนำเป็นจ่าฝูงแบบเดี่ยวๆ ได้สำเร็จ หลังจากผ่าน 15 หลุม
ถึงตรงนี้โมลินารี่หลุดจากวงโคจรไปแล้ว ไทเกอร์ยืนหนึ่งเป็นผู้นำได้เรื่อยๆ จนมาถึงหลุมที่ 18 พาร์ 4 ขอแค่เขาไม่ตีดับเบิ้ลโบกี้ ก็จะคว้าแชมป์ทันที
คุณแม่กุลธิดา, แซม, ชาร์ลี, เอริก้า แฟนสาวของไทเกอร์ตอนนั้น และ มาร์ค สไตน์เบิร์ก – เอเยนต์ของไทเกอร์ กลุ่มนี้มีชื่อเรียกกันว่า Team Tiger ทั้งหมดมายืนรอไทเกอร์อยู่ที่หลุม 18 เตรียมตัวฉลองแชมป์ไปด้วยกัน
และไทเกอร์ก็ทำได้
เขาจบหลุมที่ 18 ด้วยการออกโบกี้ แต่ยังดีเกินพอที่จะคว้าแชมป์เดอะ มาสเตอร์ส ได้สำเร็จ กับผลงาน 4 วัน 13 อันเดอร์พาร์ คว้าเงินรางวัล 2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
และที่สำคัญ มันคือการคว้าแชมป์เมเจอร์ รายการที่ 15 ของไทเกอร์ หลังจาก ว่างเว้นไปนานถึง 11 ปีเต็มๆ
ท่ามกลางมรสุมทุกอย่าง เขาคัมแบ็กกลับมาได้จริงๆ
ทั่วสนามออกัสต้า ส่งเสียงร้อง “ไทเกอร์ ไทเกอร์ ไทเกอร์” อย่างกึกก้อง ตัวไทเกอร์ตะโกนด้วยความสะใจ เขาขว้างไม้พัตต์ทิ้ง แล้วเดินข้ามกรีน มาหา Team Tiger ที่รออยู่ข้างสนาม
คนแรกที่วิ่งมากอดไทเกอร์ คือ ชาร์ลี ลูกชายของเขา ขณะที่กุลธิดา ยืนปรบมืออยู่ข้างๆ ด้วยความภูมิใจ
เมื่อเห็นกุลธิดา ไทเกอร์รีบเข้าไปกอดคุณแม่ทันที เธอพูดว่า ‘ภูมิใจในตัวลูกนะ’ ไทเกอร์ตอบกลับว่า ‘เราทำได้แล้วแม่ ผมรักแม่มากๆ เลย’
ไทเกอร์กล่าวถึงกุลธิดาในภายหลังว่า “22 ปีอันยาวนาน ชีวิตของผมเปลี่ยนไป เจอกับเรื่องราวมากมาย แต่มีสิ่งเดียวเท่านั้นที่ยังคงเหมือนเดิม นั่นคือ แม่ ที่จะยืนอยู่ตรงนั้นเสมอ”
แชมป์เมเจอร์แรกของไทเกอร์ ในปี 1997 ไทเกอร์ยังไม่แต่งงาน ยังไม่มีลูก เป็นเด็กหนุ่มวัย 20 ต้นๆ กุลธิดาก็อยู่ มาในวันนี้ แชมป์เมเจอร์อีกครั้งในปี 2019 ไทเกอร์อายุ 43 ปี มีลูกแล้ว 2 คน กุลธิดาก็ยังอยู่ที่เดิม
เมื่อกอดกุลธิดาเสร็จ เขาก็ไปกอดลูกสาว-แซม และพูดว่า “พ่อรักลูกนะ” ความตั้งใจแรกสุดของเขาที่กลับมาเล่นกอล์ฟ ก็เพื่อทำให้ลูกดู ว่าพ่อคนนี้ ก็คือเลเจนด์เหมือนกัน และเขาก็ทำให้ลูกได้เห็นกับตาจริงๆ
การคัมแบ็กกลับมาเป็นแชมป์เมเจอร์ของไทเกอร์ วูดส์ ถือเป็นปรากฏการณ์ของโลกกีฬา คุณคัมแบ็กมาได้อย่างไร ทั้งๆ ที่ชีวิตร่วงหล่นไปแล้วขนาดนั้น
3,954 วัน ที่ไม่ได้แชมป์เมเจอร์ เขากลับมาเป็นแชมป์จนได้
ไม่บ่อยนัก ที่บารัค โอบาม่า อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต กับ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีคนปัจจุบันจากรีพับบลิกัน จะคิดเห็นอะไรตรงกัน แต่ ณ วันนั้น ทั้งคู่ต่างทวีตข้อความ แสดงความยินดีกับไทเกอร์
ฮิวจ์ แจ๊คแมน นักแสดงฮอลลีวูดที่เล่นเป็นวูฟเวอร์รีน, แกรี่ ลินิเกอร์ อดีตนักฟุตบอลทีมชาติอังกฤษ, โคบี้ ไบรอันต์ นักบาสเอ็นบีเอ, ทอม เบรดี้ ควอเตอร์แบ็กคนดัง, แกเร็ธ เบล ปีกชาวเวลส์ที่รักกอล์ฟยิ่งกว่าเตะฟุตบอล, เซเรน่า วิลเลียมส์ นักเทนนิสหญิงที่เก่งที่สุด ฯลฯ ใครต่อใคร หลากหลายวงการ กล่าวแสดงความยินดีกับไทเกอร์ เพราะมันเป็นแชมเปี้ยนที่ยิ่งใหญ่จริงๆ
เช่นเดียวกับ ตัวไทเกอร์ เขากล่าวด้วยความภูมิใจว่า “มีช่วงหนึ่งที่ผมคิดจริงๆ ว่าคงไม่มีวันได้เล่นกอล์ฟอีกแล้ว คือผมแค่ภาวนาว่า ขอแค่เดินเหินได้ตามปกติ โดยไม่เจ็บหลัง ไม่เจ็บขาก็พอแล้ว แต่วันนี้ผมทำได้”
ไทเกอร์ ใช้พลังชีวิตทั้งหมดในเฮือกสุดท้าย เพื่อทัวร์นาเมนต์นี้ เขาต้องการฝาก Legacy อันยิ่งใหญ่ให้ทุกคน และให้ลูกๆ ได้จดจำ สุดท้ายเขาก็คว้าแชมป์ได้สำเร็จ
สิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนั้น คือ เดอะ มาสเตอร์ส 2019 ก็คือแชมป์เมเจอร์ครั้งสุดท้าย ที่ไทเกอร์ทำได้ในการเล่นอาชีพ
หลังจากได้แชมป์ เดอะ มาสเตอร์ส 2019 ไทเกอร์ได้รับบาดเจ็บอีกครั้ง รวมถึงประสบอุบัติเหตุรถชนอย่างรุนแรง จนเกือบต้องตัดขา คือแม้จะรักษาหายกลับมา แต่แพทย์ก็ระบุว่า คงยากมากแล้ว ที่จะกลับไปสู่จุดสูงสุดเหมือนเดิมอีก
ในปัจจุบัน ไทเกอร์อายุใกล้ 50 ปี เขายังเล่นกอล์ฟอยู่ แต่ด้วยสภาพร่างกายที่ไม่สมบูรณ์ และอายุที่มากขึ้น ทำให้เขาไม่ได้ลุ้นแชมป์เมเจอร์อีกแล้ว
ไทเกอร์ยังเล่นเพื่อความสนุก เพราะกอล์ฟคือกีฬาที่เขารัก นอกจากนั้นก็ช่วยเทรนนิ่งลูกชาย ชาร์ลี ที่โตขึ้นมา แล้วอยากเป็นนักกอล์ฟเช่นกัน
ไทเกอร์ เป็นตำนานของวงการกอล์ฟแน่นอน แต่เรื่องนี้ถูกยืนยันอย่าง Official ในเดือนมีนาคม 2022 เมื่อพีจีเอ ประกาศว่า ไทเกอร์ วูดส์ จะได้รับเกียรติให้บรรจุอยู่ในหอเกียรติยศแห่งกีฬากอล์ฟ
ในบรรดานักกอล์ฟ หลายหมื่น หลายแสนคนทั่วโลก มีนักกอล์ฟแค่ราวๆ 100 คนเท่านั้น ที่จะถูกคัดเลือกเข้าสู่หอเกียรติยศ (Hall of Fame) คือคุณต้องเป็นคนที่มีคุณค่าต่อวงการกอล์ฟอย่างแท้จริง
นักกีฬาที่ได้รับเลือก จะรู้สึกภาคภูมิใจมาก เพราะมันคือจุดสูงสุด ที่ใครสักคนจะถูกยกย่องได้แล้ว
ไทเกอร์กลัวว่าเรื่องพฤติกรรมของเขาในอดีต จะทำให้ตัวเองไม่ถูกเลือกมาอยู่ในหอเกียรติยศ แต่สุดท้าย คณะกรรมการก็เลือกเขา
คือแม้จะมีดราม่าใดๆ ก็ตาม แต่สิ่งบวกๆ ที่ไทเกอร์มอบให้โลกนี้ ถือว่ามีเยอะกว่า
อย่างน้อยที่สุด ไทเกอร์ก็ยังแสดงให้เห็นว่า แม้จะเจอปัญหารุมเร้า แต่ถ้าคุณไม่ยอมแพ้ ก็สามารถเอาชนะมันได้เสมอ
9 มีนาคม 2022 ที่สำนักงานใหญ่ของพีจีเอ มีการจัดพิธีฉลองการเข้าหอเกียรติยศให้ไทเกอร์ โดยมีคนในวงการมากันคับคั่ง สปอนเซอร์ นักข่าว เพื่อนนักกอล์ฟ ทุกคนมาร่วมยินดีกับไทเกอร์
เมื่อได้เวลา ไทเกอร์ขึ้นไปกล่าวสปีชว่า “ผมไม่มีวันมายืนอยู่ตรงนี้ได้ ถ้าไม่มีการเสียสละของแม่ ที่พาผมไปแข่งในทัวร์นาเมนต์เยาวชนตลอดหลายปี และถ้าไม่มีพ่อ ที่วันนี้ท่านไม่อยู่แล้ว แต่ก็เป็นคนปลูกฝังจิตวิญญาณของการเป็นนักสู้ไว้ในตัวผม”
“สิ่งพ่อแม่ของผมสอนมาตลอด คือ คุณไม่มีวันประสบความสำเร็จอะไรได้เลย ถ้าไม่ทุ่มเทชีวิตให้มัน เพราะในโลกนี้ สวรรค์จะไม่ประทานอะไรให้คุณทั้งนั้น แต่คุณต้องสร้างมันขึ้นมาเองเท่านั้น”
15 แชมป์เมเจอร์, 82 แชมป์ในพีจีเอ ทัวร์ และนักกอล์ฟที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาล นี่คือความยิ่งใหญ่ ที่คงไม่มีใครมาเทียบเคียงได้อีกแล้ว
ระหว่างที่ไทเกอร์กำลังพูดอยู่ กล้องจับภาพมาที่กุลธิดาในวัย 76 ปี ที่นั่งอยู่ด้านล่างเวที
ในวงการกอล์ฟ นี่เป็นภาพที่ไม่แปลกเลย ถ้าคุณเห็นไทเกอร์ไปไหน ก็จะเห็นกุลธิดาเสมอ เธอพร้อมจะไปให้กำลังใจลูกชายทุกที่ ทุกเวลา
จริงๆ แล้ว ก็ถือว่าตลกดี เพราะเมื่อปี 2010 ที่สำนักงานใหญ่ของพีจีเอ ที่เดียวกันนี้เลย ตอนที่ไทเกอร์แถลงข่าวขอโทษสังคมที่นอกใจภรรยา วันที่ไม่มีใครเคียงข้างเขาสักคน แต่วันนั้นกุลธิดาก็อยู่ เพื่อซัพพอร์ทลูกชาย
จากนั้นในปี 2022 อีก 12 ปีต่อมา วันที่ไทเกอร์ถูกรายล้อมด้วยผู้คน ที่มายินดีที่เขาถูกเลือกเข้าหอเกียรติยศ กุลธิดาก็ยังอยู่เช่นกัน
ไม่ว่าจะโมเมนต์ดี หรือ โมเมนต์ร้าย ในฐานะแม่ เธอจะไม่ปล่อยให้เขาเผชิญกับมันอย่างเดียวดาย
กุลธิดาเล่าว่า “ฉันเป็นคนที่แสดงอารมณ์ไม่ค่อยเก่ง ตอนที่ไทเกอร์คว้าแชมป์เดอะ มาสเตอร์ส เป็นครั้งแรก พ่อของไทเกอร์น้ำตาไหล ฉันก็ดีใจนะ แต่ไม่ได้ร้องห่มร้องไห้แบบนั้น หรือตอนที่เขาคว้าแชมป์ยูเอส โอเพ่น ที่เพพเบิ้ล บีช ในขณะที่ผู้คนโห่ร้องให้เขาทั้งแฟร์เวย์ ฉันก็แค่คิดว่า อืม ก็ดีแล้วที่ชนะ”
“ฉันอาจจะไม่ค่อยแสดงออกมากนัก แต่รู้ไหม ว่าฉันอธิษฐานกับพระพุทธเจ้าตลอด ว่าถ้าหากชาติหน้ามีจริง อยากให้ไทเกอร์ กลับมาเกิดเป็นลูกชายของฉันอีกครั้ง”
“สิ่งที่ฉันบอกกับไทเกอร์เสมอ และจะบอกตลอดไป ก็คือ ลูกสามารถเชื่อใจแม่ได้เสมอ และแม่คนนี้จะไม่มีวันทำร้ายลูกอย่างแน่นอน”
วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2025 กุลธิดาเสียชีวิตด้วยวัย 78 ปี เธอจากโลกใบนี้ไปด้วยความรักและความอาลัย จากทุกคนในครอบครัววูดส์
ถ้าดูเรื่องราวในชีวิตของกุลธิดา จะพบว่า เธอไม่ได้สมหวังกับทุกอย่างที่ต้องการ
กุลธิดาเจอความลำบากไม่น้อย เธอโดนหมางเมินจากพ่อแม่ตัวเองตั้งแต่เด็ก จากนั้นพอแต่งงานกับเอิร์ล ก็โดนสามีนอกใจไปหาผู้หญิงคนอื่นซ้ำๆ โดยไม่เคยให้เกียรติเธอเลย ยังไม่นับปัญหาการเงินที่รุมเร้ามากๆ ในช่วงที่ไทเกอร์ยังไม่ได้เทิร์นโปร
แต่แม้จะเจอเรื่องราวต่างๆ กุลธิดาก็ไม่เคยแสดงความอ่อนแอให้เห็น มีปัญหาอะไร เธอก็ฝ่าฟันมันไป เธอพยายามทำตัวเข้มแข็ง เพื่อเป็นเสาหลักให้ลูกชายได้ยึดเหนี่ยวเสมอมา
กุลธิดาตั้งใจทำหน้าที่หลักของเธอ นั่นคือซัพพอร์ทไทเกอร์ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้าย
และเธอก็ทำมันได้ดีมากจริงๆ จนไทเกอร์ประสบความสำเร็จสูงสุด เป็นหนึ่งในนักกีฬาที่โด่งดังที่สุดในประวัติศาสตร์ แถมยังมีชีวิตครอบครัวที่ดี มีลูกๆ ที่น่ารักถึง 2 คน
สำหรับแม่คนหนึ่ง เมื่อได้เห็นลูกชายฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย จนท้ายที่สุด ได้ค้นพบความสุขที่แท้จริงในชีวิต ก็ไม่มีอะไรที่เธอต้องการมากไปกว่านี้อีกแล้ว
[ จบซีรีส์ กุลธิดา – ไทเกอร์ วูดส์ ]
ลูกสาว-แซม กับ ลูกชาย-ชาร์ลี เตะฟุตบอลตั้งแต่เด็ก และพวกเขาก็อยากเจอนักเตะอัจฉริยะอย่างเมสซี่สักครั้ง ดังนั้นไทเกอร์จึงใช้พาวเวอร์ ในฐานะนักกีฬาที่มีชื่อเสียง ช่วยจัดแจง จนลูกๆ ทั้ง 2 คน ได้เจอและได้ถ่ายรูปกับเมสซี่ในที่สุด
ไทเกอร์ดีใจมากที่ช่วยสานฝันให้ลูกได้สำเร็จ เขายิ้มอย่างมีความสุข แล้วหันไปถามแซมว่า “มันสุดยอดไปเลยใช่ไหม ที่ได้เจอกับตำนานที่มีชีวิต”
แซมหันมาตอบพ่อว่า “ใช่แล้ว แต่พ่อลืมไปไหม ว่าหนูกับชาร์ลี ก็อยู่บ้านเดียวกัน กับตำนานที่มีชีวิตนะ”
ไทเกอร์ หัวเราะที่ลูกสาวตอบแบบเอาใจพ่อ แต่ในเวลาเดียวกัน มันก็ทำให้เขาฉุกคิดขึ้นมาว่า ลูกๆ ทั้งสองคน เคยแต่ได้ยินเรื่องเล่าของเขา ว่าเป็นตำนานอย่างนั้น อย่างนี้ แต่ไม่เคยได้สัมผัสจริงๆ ว่าพ่อของตัวเองเก่งแค่ไหนในสนามกอล์ฟ
ตอนที่ไทเกอร์ ได้แชมป์เมเจอร์ 14 รายการ แซมยังเด็กเกินไปที่จะจำอะไรได้ ส่วนชาร์ลี ยังไม่เกิดด้วยซ้ำ
ดังนั้นมันจะดีแค่ไหนนะ ถ้าลูกๆ ได้เห็นอีกสักครั้งด้วยตา ว่าพ่อของพวกเขา คือสุดยอดนักกอล์ฟหมายเลขหนึ่งของโลก
นี่คือ EP8 และเป็นตอนจบของซีรีส์ กุลธิดา – ไทเกอร์ วูดส์ กับชีวิตอันเต็มไปด้วยสีสันของอัจฉริยะแห่งวงการกอล์ฟ
——————
หลังจากหย่าร้างกับเอลิน นอร์เดเกร็น ชีวิตของไทเกอร์ก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ปัญหานอกสนาม ส่งผลต่อการเล่นกีฬาอย่างชัดเจนมาก
แชมป์พีจีเอทัวร์ รายการสุดท้ายของไทเกอร์ คือ ศึก WGC-บริดจ์สโตน อินวิเทชันนอลในปี 2013 จากนั้น เขาก็ไม่ได้แชมป์อะไรอีกเลย 4 ปีเต็มๆ
สภาพจิตใจก็เรื่องหนึ่ง แต่สภาพร่างกายก็เป็นปัญหาที่หนักหนาไม่แพ้กัน ไทเกอร์ได้รับบาดเจ็บที่หมอนรองกระดูกขั้นเรื้อรัง จนไม่สามารถเล่นกอล์ฟได้ พอเข้ารับการรักษา แป้บเดียวก็เจ็บซ้ำอีก สุดท้ายต้องเข้ารับการผ่าตัดใหญ่ 2 ครั้ง แล้วพักยาวไปนานเป็นปีๆ
หลังผ่าตัดเสร็จ ร่างกายยังคงเจ็บปวดอย่างสาหัส อาการเจ็บทำให้เขาต้องกินยาแก้ปวดหลายขนาน และมีครั้งหนึ่งที่เขาเทกยาหนักเกิน แล้วไปขับรถ จนหมดสติคาพวงมาลัย จึงโดนตำรวจแจ้งข้อหา DUI ในเดือนพฤษภาคม 2017
ตอนแรก ไทเกอร์ก็คิดเหมือนกันว่า หรือเราเลิกเล่นกอล์ฟไปเลยดีมั้ย เรื่องเงินทองก็ไม่มีปัญหาแล้ว เขามีสินทรัพย์เก็บสะสมไว้ มากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ และมีธุรกิจอื่นๆ มากมาย เช่น รับจ้างออกแบบสนามกอล์ฟทั่วโลก
คือไม่ต้องกลับมาตีกอล์ฟ ก็มีเงินเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้ตลอดชีวิต อย่างไรก็ตาม ในวันที่ไปเจอลีโอเนล เมสซี่ ทำให้ไทเกอร์ตัดสินใจได้ ว่าจะลองกลับมาสู้ดูอีกสักครั้ง
ในกีฬากอล์ฟ จะมี 4 รายการที่ยิ่งใหญ่ที่สุด และมีประวัติศาสตร์ยาวนาน เราเรียกมันว่า “รายการเมเจอร์” ก็คล้ายๆ กับ แกรนด์สแลมของกีฬาเทนนิสนั่นเอง
4 เมเจอร์ของกอล์ฟ ประกอบด้วย เดอะ มาสเตอร์ส, ยูเอส โอเพ่น, บริติช โอเพ่น และ พีจีเอ แชมเปี้ยนชิพ
นักกอล์ฟที่คว้าแชมป์เมเจอร์ได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ คือ แจ๊ค นิคลอส ทำได้ 18 รายการ ส่วนไทเกอร์ นับจนถึงปี 2008 ตอนเขาอายุ 32 ปี ไทเกอร์คว้าไปแล้ว 14 รายการ
ช่วงที่ไทเกอร์พุ่งทะยานขึ้นมา เขาคือปรากฏการณ์เพราะเป็นนักกอล์ฟที่สมบูรณ์แบบที่สุด เขาไดรฟ์ได้ทรงพลัง พัตต์ก็เก่ง คุณหาจุดอ่อนจากไทเกอร์ไม่ได้เลย ไม่แปลกที่จะได้แชมป์เมเจอร์รัวๆ ขนาดนั้น
หลังจากได้แชมป์เมเจอร์ 14 รายการ ด้วยอายุแค่ 32 ปี ทำให้ใครๆ ก็มั่นใจว่า ไทเกอร์ทำลายสถิติเดิมของแจ๊ค นิคลอสได้แน่ คว้าแชมป์อีกแค่ 5 รายการก็แซงได้แล้ว
แต่พอไทเกอร์ มีปัญหาเรื่องเล่นชู้กับผู้หญิง 120 คน ในปี 2009 ชีวิตของเขาก็ดิ่งเหว เมื่อผสมกับอาการบาดเจ็บ ทำให้เขาไม่สามารถกลับไปคว้าแชมป์เมเจอร์ได้อีกเลย เหมือนกับว่าโอกาสของเขาจะจบลงแล้ว
หลังจากไม่ได้จับไม้กอล์ฟมายาวนานมาก แต่เมื่อเขามีแพสชั่นในใจ ว่าอยากทำให้ลูกๆ ได้เห็นว่าพ่อเก่งยังไง ในที่สุด เดือนพฤศจิกายน 2017 ไทเกอร์ วัย 41 ปี ก็เริ่มนับหนึ่งอีกครั้ง ด้วยการลงแข่งขันทัวร์นาเมนต์การกุศล ชื่อ Hero World Challenge ที่บาฮามาส
คนในวงการกีฬาตื่นตะลึงมาก เพราะคิดว่าไทเกอร์จะรีไทร์ไปแล้ว
สเตฟเฟ่น เคอร์รี่ นักบาสจากโกลเด้น สเตท วอร์ริเออร์ส ทวีตว่า “การรอคอยสิ้นสุดแล้ว” ส่วน ไมเคิล เฟลป์ส นักว่ายน้ำเหรียญทองโอลิมปิกบอกว่า “ตื่นเต้นไม่ไหวแล้วที่จะได้เห็นไทเกอร์ วูดส์ กลับมาสู่สนามกอล์ฟอีกครั้ง”
ขณะที่บรรยากาศรอบตัวของไทเกอร์ ก็เปลี่ยนไปจากเดิมเยอะ ในช่วงที่มีข่าวเล่นชู้ช่วงแรกๆ เขาโดนสาปส่ง โดนแซะ โดนล้อเลียน แต่เหตุการณ์นั้นก็ผ่านมาแล้ว 8 ปี ไทเกอร์ชดใช้ความผิดของตัวเองไปแล้ว สังคมด่าไปแล้ว ส่วนภรรยาก็หย่ากันไปแล้ว
ในวันนี้เขาเป็นคนใหม่แล้ว และพิสูจน์ให้เห็นว่า แม้จะเป็นสามีที่ไม่ค่อยดี แต่เขาเป็นคุณพ่อที่ยอดเยี่ยม ดูแลลูกๆ ทั้งสองคนอย่างสุดความสามารถ
ดังนั้นสำหรับแฟนกอล์ฟทั่วไป ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะต้องไปเหยียบเขาซ้ำๆ ไม่รู้จบ หลายคนหันมาให้กำลังใจไทเกอร์ในการคัมแบ็กครั้งนี้
25 มกราคม 2018 ไทเกอร์ลงแข่งอาชีพ รายการแรกในรอบ 2 ปี ในศึกฟาร์เมอร์ส อินชัวแรนซ์ โอเพ่น ที่สนามทอร์เรย์ พายน์ส ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ปรากฏว่า แฟนๆ รุมซื้อตั๋วจน sold out เพราะผู้คนอยากเห็นการคัมแบ็กของพญาเสือ ว่าเขายังคงมีเขี้ยวเล็บอยู่แค่ไหน
เมื่อไทเกอร์ กลับมาร่วมแข่งขัน เขาถึงได้รู้ว่า ช่วงที่หายไป มีดาวรุ่งหน้าใหม่ขึ้นมาเขย่าวงการเต็มไปหมด ทั้งรอรี่ แม็คอิลรอย, ดัสติน จอห์นสัน, ริคกี้ ฟาวเลอร์ และ จอน ราห์ม อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้มาแข่งกับดาวรุ่งพวกนั้น ไทเกอร์แค่ต้องการสู้กับตัวเอง หาจังหวะเก่าๆ ของเขาคืนกลับมาให้ได้แค่นั้นพอ
สิ่งที่เปลี่ยนไปในตัวของไทเกอร์ คือ จิตใจของเขาสงบลงกว่าเดิม ในวัย 40s เขาไม่เลือดร้อนเท่าเดิม ไม่หงุดหงิดกับอะไรอีกแล้ว
ในการแข่งขันวันแรกที่ทอร์เรย์ พายน์ส หลุม 13 พาร์ 5 ไทเกอร์พัตต์ช็อต 5 เพื่อเอาพาร์ จากระยะ 2 ฟุตครึ่ง ปรากฏว่าเขาตีพลาด ซึ่งถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงโมโหมากๆ แต่ในคราวนี้ เขาไม่ได้แสดงอารมณ์กราดเกรี้ยวอะไรเลย พอตีโบกี้เสร็จ เขาก็เดินไปเก็บลูก แล้วเดินไปที่หลุม 14 ต่อ ระหว่างทาง เจอทหารเรือกลุ่มหนึ่งที่เข้ามาดูการแข่งขัน ไทเกอร์หยุดแล้วพูดคุย ทักทาย กับทหารกลุ่มนั้นอย่างเป็นกันเอง
นักข่าวคนหนึ่งที่อยู่ในเหตุการณ์บอกว่า “ไทเกอร์ไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน แต่ตอนนี้ เขาเอ็นจอยกับทุกสิ่งที่อยู่รอบตัว”
ไทเกอร์จบอันดับ 23 ในรายการฟาร์เมอร์ส อินชัวแรนซ์ โอเพ่น และจากนั้น เขาก็กลับมาลงแข่งขันเต็มรูปแบบ เดินสายไปแข่งพีจีเอ ทัวร์ ตลอดทั้งปี
นั่นทำให้แฟนๆ ได้กลับมาเห็นภาพที่คุ้นเคยอีกครั้ง นั่นคือ กุลธิดา วูดส์ สาวเอเชียวัย 70 กว่าๆ ที่เดินตามไปเชียร์ลูกชายในทุกหลุม ทุกสนาม
ไทเกอร์ ค่อยๆ จับจังหวะของตัวเองมากขึ้นได้เรื่อยๆ คนที่เป็นอัจฉริยะ แม้จะห่างหายจากการเล่นกอล์ฟไปนาน แต่พอกลับมาเล่นได้แป้บเดียว มันก็คลิกได้ไม่ยาก
เข้าสู่เดือนเมษายน 2019 ไทเกอร์อายุ 43 ปี ได้สิทธิ์ร่วมลงแข่งรายการ เดอะ มาสเตอร์ส
เดอะ มาสเตอร์ส เป็นเมเจอร์ที่มีความพิเศษกับไทเกอร์มากๆ เพราะเป็นแชมป์เมเจอร์ รายการแรกในชีวิตนักกอล์ฟของเขา
ในเมเจอร์ อีก 3 รายการที่เหลือ ผู้จัดจะเปลี่ยนสนามแข่งไปเรื่อยๆ แต่กับเดอะ มาสเตอร์ส จะเป็นเมเจอร์รายการเดียว ที่จะเล่นที่สนามเดิม นั่นคือสนามออกัสต้า ในรัฐจอร์เจีย เท่ากับว่าไทเกอร์ ได้โอกาสกลับมายืนสนามเดิมที่เขาคุ้นเคยอีกครั้ง
สำหรับทัวร์นาเมนต์ เดอะ มาสเตอร์ส ปี 2019 เป็นอีเวนต์ที่ไทเกอร์ ตั้งใจมากๆ เพราะเขาเองไม่รู้ว่าจะเล่นกอล์ฟไปได้อีกนานแค่ไหน วัย 43 ในวงการกีฬาอาชีพ ก็ถือว่าแก่แล้ว ขณะที่อาการบาดเจ็บที่แผ่นหลัง มันจะกำเริบอีกเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ บางที นี่อาจเป็นโอกาสสุดท้ายของเขาที่จะได้แข่งเมเจอร์แล้วก็ได้
การแข่งเดอะ มาสเตอร์ส 2019 เริ่มต้นขึ้น ไทเกอร์มีผลงานดังนี้
[ จบวันที่ 1 (18 หลุม) – 2 อันเดอร์พาร์ อันดับ 11 ร่วม ]
ไทเกอร์ทำได้ 2 อันเดอร์พาร์ ตามหลังผู้นำอยู่ 4 สโตรก ถือว่าเป็นผลงานที่โอเคแล้ว สื่อสหรัฐฯ วิเคราะห์ว่าโอกาสที่ไทเกอร์จะเข้าป้ายคว้าแชมป์ อยู่ที่ 3.2% ขณะที่ตัวไทเกอร์บอกว่า “ผมแฮปปี้ และรู้สึกว่าคอนโทรลลูกได้ดีนะ”
[ จบวันที่ 2 (36 หลุม) – 6 อันเดอร์พาร์ อันดับ 6 ร่วม ]
ไทเกอร์ตีได้ดีขึ้น เขาจบรอบที่ 2 ด้วยการไม่มีโบกี้แม้แต่หลุมเดียว ไล่จี้ผู้นำเหลือแค่ 1 สโตรกเท่านั้น แต่ผู้คนก็ยังมองข้ามไทเกอร์ เพราะเชื่อว่า พอเข้าวันที่ 3 และ 4 ร่างกายของไทเกอร์ก็อาจจะทรุดลง จนตีพลาด
[ จบวันที่ 3 (54 หลุม) – 11 อันเดอร์พาร์ อันดับ 2 ร่วม ]
ฟรานเชสโก้ โมลินารี่ ขึ้นนำเป็นอันดับ 1 ด้วยสกอร์ 13 อันเดอร์พาร์ คือโมลินารี่กำลังมีความมั่นใจ เขาเพิ่งคว้าแชมป์เมเจอร์ พีจีเอ แชมเปี้ยนชิพ มาสดๆ ร้อนๆ สื่อสหรัฐฯ ฟันธงว่าโมลินารี่ มีโอกาสคว้าแชมป์ 37.9% ส่วนไทเกอร์ อยู่ที่ 17.2% เท่านั้น
สถิติบอกว่า ไทเกอร์ไม่เคยได้แชมป์เมเจอร์แม้แต่รายการเดียว ถ้าจบวันที่ 3 แล้วเขายังตามหลังคู่แข่งอยู่
[ เข้าสู่วันที่ 4 (72 หลุม) วันสุดท้ายของเดอะ มาสเตอร์ส ปี 2019 ]
กองเชียร์เข้ามาในสนามอย่างล้นหลาม ไทเกอร์ออกรอบพร้อมกับฟรานเชสโก้ โมลินารี่ ทั้งคู่จะดวลกันไปเรื่อยๆ จนครบ 18 หลุม
เสื้อที่ไทเกอร์ใช้ลงแข่งในวันสุดท้าย คือ สีแดงสด โดยสาเหตุที่เขาเลือกสีนี้ เป็นเพราะข้อตกลงที่เขามีกับกุลธิดานั่นเอง
ช่วงวัยรุ่นไทเกอร์ไม่ชอบใส่สีแดง เพราะมันสดเกินไปในสนามกอล์ฟ แต่กุลธิดาบอกว่า “สีแดง คือสีแห่งพลังของลูก ตั้งแต่สมัยเยาวชน ลูกใส่สีแดงทีไรก็ชนะตลอด” เธออยากให้ลูกใส่สีแดงลงแข่งทุกครั้ง
ไทเกอร์เลยมีข้อตกลงกับแม่ เขาบอกว่า ‘โอเค แม่ งั้นเรามาตกลงกัน ผมจะใส่เสื้อสีแดงเฉพาะในรายการใหญ่ๆ เท่านั้น หรือไม่ก็ในการแข่งรอบสุดท้ายวันอาทิตย์ เพราะผมคงใส่สีแดงทุกวันไม่ได้จริงไหม?’ ซึ่งกุลธิดาตอบว่า ‘ก็ได้ งั้นใส่สีแดงวันสุดท้ายก็แล้วกัน’
การแข่งเดอะ มาสเตอร์ส วันสุดท้าย ที่เขามีลุ้นแชมป์ ทุกอย่างตรงเงื่อนไขที่ตกลงกับแม่ไว้ทั้งหมด นั่นคือเหตุผลที่ไทเกอร์ ตัดสินใจใส่สีแดงลงแข่งขันนั่นเอง
ในการออกรอบ วันที่ 4 ปรากฏว่าไทเกอร์ เล่นผิดพลาดอย่างรวดเร็ว ออกโบกี้หลุม 4 และ หลุม 5 ติดต่อกัน ขณะที่โมลินารี่เก็บพาร์ได้ทั้งหมด ยังไม่พลาดเลย สถานการณ์ลุ้นแชมป์จึงเสียเปรียบทันที
คนที่กระตุ้นให้ไทเกอร์ มีฮึดขึ้นมา คือแคดดี้ ชื่อ โจ ลาคาว่า
โจ ลาคาว่า เป็นแคดดี้ที่ภักดีกับไทเกอร์มากที่สุด ตอนที่ไทเกอร์มีข่าวเรื่องผู้หญิง ตามด้วยบาดเจ็บจนไม่ได้เล่น 2 ปี เขาก็ไม่ไปเป็นแคดดี้ให้คนอื่น แต่รออยู่อย่างนั้น รอสักวันที่ไทเกอร์จะกลับมาเล่นกอล์ฟอีกครั้ง
ไทเกอร์เล่าว่า “หลังจบหลุม 5 โจ ได้พูดบางอย่าง ที่ผมไม่อาจเล่าให้ฟังได้ จากนั้นผมก็เข้าห้องน้ำไป แล้วประมวลผล ก่อนจะเอาคำพูดของโจ มากระตุ้นตัวเองซ้ำแล้วซ้ำอีก เมื่อออกจากห้องน้ำมา ผมรู้สึกดีขึ้นกว่าเดิมเยอะ”
สื่อมวลชนมีการวิเคราะห์กันว่า โจ ลาคาว่า พูดอะไร? แต่ก็ยังเดาไม่ได้ จนถึงปัจจุบันนี้
หลังพลาด 2 โบกี้ติดๆ กัน ไทเกอร์ตั้งสติได้ แล้วกลับมาเก็บเบอร์ดี้ หลุม 7 และ หลุม 8 เขายังไม่ยอมแพ้ ทำแต้มไล่เกาะโมลินารี่อยู่เรื่อยๆ ไม่ยอมห่าง
เข้าสู่ หลุม 12 พาร์ 3 นี่คือหลุมที่ท้าทายที่สุดในเดอะ มาสเตอร์ส เพราะจากจุดทีออฟไปถึงกรีน จะมีบ่อน้ำขวางกั้นอยู่ ถ้าหากคุณตีพลาด น้ำหนักไม่ดี ลูกกอล์ฟมีโอกาสตกน้ำ แล้วก็อาจ ทำแต้มติดลบได้เลย
ใน 3 วันแรก โมลินารี่ไม่พลาดหลุมนี้เลย ทำได้ดีตลอด แต่พอมาวันสุดท้าย ด้วยแรงกดดันที่รุมเร้า ทำให้เขา “ตีตกน้ำ” ออกดับเบิ้ลโบกี้เฉยเลย ขณะที่ไทเกอร์ เยือกเย็นกว่า นิ่งกว่า เขาเก็บพาร์ได้ ทำให้สถานการณ์ในตาราง ทั้งสองคนกลับมาเสมอกันที่ 11 อันเดอร์พาร์
เข้าสู่ หลุม 15 พาร์ 5 ตอนนี้โมลินารี่จิตหลุดไปแล้ว ปกติหลุมนี้เขาตีเบอร์ดี้ได้ทุกครั้ง แต่มารอบนี้ กลับตีเข้าป่า อยู่ๆ ก็คอนโทรลลูกไม่ได้ขึ้นมาเฉยๆ แล้วออกดับเบิ้ลโบกี้ไปอีกหลุม ขณะที่ไทเกอร์ มีสมาธิมาก ตีอย่างมั่นคง และเก็บเบอร์ดี้ได้สำเร็จ ขึ้นนำเป็นจ่าฝูงแบบเดี่ยวๆ ได้สำเร็จ หลังจากผ่าน 15 หลุม
ถึงตรงนี้โมลินารี่หลุดจากวงโคจรไปแล้ว ไทเกอร์ยืนหนึ่งเป็นผู้นำได้เรื่อยๆ จนมาถึงหลุมที่ 18 พาร์ 4 ขอแค่เขาไม่ตีดับเบิ้ลโบกี้ ก็จะคว้าแชมป์ทันที
คุณแม่กุลธิดา, แซม, ชาร์ลี, เอริก้า แฟนสาวของไทเกอร์ตอนนั้น และ มาร์ค สไตน์เบิร์ก – เอเยนต์ของไทเกอร์ กลุ่มนี้มีชื่อเรียกกันว่า Team Tiger ทั้งหมดมายืนรอไทเกอร์อยู่ที่หลุม 18 เตรียมตัวฉลองแชมป์ไปด้วยกัน
และไทเกอร์ก็ทำได้
เขาจบหลุมที่ 18 ด้วยการออกโบกี้ แต่ยังดีเกินพอที่จะคว้าแชมป์เดอะ มาสเตอร์ส ได้สำเร็จ กับผลงาน 4 วัน 13 อันเดอร์พาร์ คว้าเงินรางวัล 2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
และที่สำคัญ มันคือการคว้าแชมป์เมเจอร์ รายการที่ 15 ของไทเกอร์ หลังจาก ว่างเว้นไปนานถึง 11 ปีเต็มๆ
ท่ามกลางมรสุมทุกอย่าง เขาคัมแบ็กกลับมาได้จริงๆ
ทั่วสนามออกัสต้า ส่งเสียงร้อง “ไทเกอร์ ไทเกอร์ ไทเกอร์” อย่างกึกก้อง ตัวไทเกอร์ตะโกนด้วยความสะใจ เขาขว้างไม้พัตต์ทิ้ง แล้วเดินข้ามกรีน มาหา Team Tiger ที่รออยู่ข้างสนาม
คนแรกที่วิ่งมากอดไทเกอร์ คือ ชาร์ลี ลูกชายของเขา ขณะที่กุลธิดา ยืนปรบมืออยู่ข้างๆ ด้วยความภูมิใจ
เมื่อเห็นกุลธิดา ไทเกอร์รีบเข้าไปกอดคุณแม่ทันที เธอพูดว่า ‘ภูมิใจในตัวลูกนะ’ ไทเกอร์ตอบกลับว่า ‘เราทำได้แล้วแม่ ผมรักแม่มากๆ เลย’
ไทเกอร์กล่าวถึงกุลธิดาในภายหลังว่า “22 ปีอันยาวนาน ชีวิตของผมเปลี่ยนไป เจอกับเรื่องราวมากมาย แต่มีสิ่งเดียวเท่านั้นที่ยังคงเหมือนเดิม นั่นคือ แม่ ที่จะยืนอยู่ตรงนั้นเสมอ”
แชมป์เมเจอร์แรกของไทเกอร์ ในปี 1997 ไทเกอร์ยังไม่แต่งงาน ยังไม่มีลูก เป็นเด็กหนุ่มวัย 20 ต้นๆ กุลธิดาก็อยู่ มาในวันนี้ แชมป์เมเจอร์อีกครั้งในปี 2019 ไทเกอร์อายุ 43 ปี มีลูกแล้ว 2 คน กุลธิดาก็ยังอยู่ที่เดิม
เมื่อกอดกุลธิดาเสร็จ เขาก็ไปกอดลูกสาว-แซม และพูดว่า “พ่อรักลูกนะ” ความตั้งใจแรกสุดของเขาที่กลับมาเล่นกอล์ฟ ก็เพื่อทำให้ลูกดู ว่าพ่อคนนี้ ก็คือเลเจนด์เหมือนกัน และเขาก็ทำให้ลูกได้เห็นกับตาจริงๆ
การคัมแบ็กกลับมาเป็นแชมป์เมเจอร์ของไทเกอร์ วูดส์ ถือเป็นปรากฏการณ์ของโลกกีฬา คุณคัมแบ็กมาได้อย่างไร ทั้งๆ ที่ชีวิตร่วงหล่นไปแล้วขนาดนั้น
3,954 วัน ที่ไม่ได้แชมป์เมเจอร์ เขากลับมาเป็นแชมป์จนได้
ไม่บ่อยนัก ที่บารัค โอบาม่า อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต กับ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีคนปัจจุบันจากรีพับบลิกัน จะคิดเห็นอะไรตรงกัน แต่ ณ วันนั้น ทั้งคู่ต่างทวีตข้อความ แสดงความยินดีกับไทเกอร์
ฮิวจ์ แจ๊คแมน นักแสดงฮอลลีวูดที่เล่นเป็นวูฟเวอร์รีน, แกรี่ ลินิเกอร์ อดีตนักฟุตบอลทีมชาติอังกฤษ, โคบี้ ไบรอันต์ นักบาสเอ็นบีเอ, ทอม เบรดี้ ควอเตอร์แบ็กคนดัง, แกเร็ธ เบล ปีกชาวเวลส์ที่รักกอล์ฟยิ่งกว่าเตะฟุตบอล, เซเรน่า วิลเลียมส์ นักเทนนิสหญิงที่เก่งที่สุด ฯลฯ ใครต่อใคร หลากหลายวงการ กล่าวแสดงความยินดีกับไทเกอร์ เพราะมันเป็นแชมเปี้ยนที่ยิ่งใหญ่จริงๆ
เช่นเดียวกับ ตัวไทเกอร์ เขากล่าวด้วยความภูมิใจว่า “มีช่วงหนึ่งที่ผมคิดจริงๆ ว่าคงไม่มีวันได้เล่นกอล์ฟอีกแล้ว คือผมแค่ภาวนาว่า ขอแค่เดินเหินได้ตามปกติ โดยไม่เจ็บหลัง ไม่เจ็บขาก็พอแล้ว แต่วันนี้ผมทำได้”
ไทเกอร์ ใช้พลังชีวิตทั้งหมดในเฮือกสุดท้าย เพื่อทัวร์นาเมนต์นี้ เขาต้องการฝาก Legacy อันยิ่งใหญ่ให้ทุกคน และให้ลูกๆ ได้จดจำ สุดท้ายเขาก็คว้าแชมป์ได้สำเร็จ
สิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนั้น คือ เดอะ มาสเตอร์ส 2019 ก็คือแชมป์เมเจอร์ครั้งสุดท้าย ที่ไทเกอร์ทำได้ในการเล่นอาชีพ
หลังจากได้แชมป์ เดอะ มาสเตอร์ส 2019 ไทเกอร์ได้รับบาดเจ็บอีกครั้ง รวมถึงประสบอุบัติเหตุรถชนอย่างรุนแรง จนเกือบต้องตัดขา คือแม้จะรักษาหายกลับมา แต่แพทย์ก็ระบุว่า คงยากมากแล้ว ที่จะกลับไปสู่จุดสูงสุดเหมือนเดิมอีก
ในปัจจุบัน ไทเกอร์อายุใกล้ 50 ปี เขายังเล่นกอล์ฟอยู่ แต่ด้วยสภาพร่างกายที่ไม่สมบูรณ์ และอายุที่มากขึ้น ทำให้เขาไม่ได้ลุ้นแชมป์เมเจอร์อีกแล้ว
ไทเกอร์ยังเล่นเพื่อความสนุก เพราะกอล์ฟคือกีฬาที่เขารัก นอกจากนั้นก็ช่วยเทรนนิ่งลูกชาย ชาร์ลี ที่โตขึ้นมา แล้วอยากเป็นนักกอล์ฟเช่นกัน
ไทเกอร์ เป็นตำนานของวงการกอล์ฟแน่นอน แต่เรื่องนี้ถูกยืนยันอย่าง Official ในเดือนมีนาคม 2022 เมื่อพีจีเอ ประกาศว่า ไทเกอร์ วูดส์ จะได้รับเกียรติให้บรรจุอยู่ในหอเกียรติยศแห่งกีฬากอล์ฟ
ในบรรดานักกอล์ฟ หลายหมื่น หลายแสนคนทั่วโลก มีนักกอล์ฟแค่ราวๆ 100 คนเท่านั้น ที่จะถูกคัดเลือกเข้าสู่หอเกียรติยศ (Hall of Fame) คือคุณต้องเป็นคนที่มีคุณค่าต่อวงการกอล์ฟอย่างแท้จริง
นักกีฬาที่ได้รับเลือก จะรู้สึกภาคภูมิใจมาก เพราะมันคือจุดสูงสุด ที่ใครสักคนจะถูกยกย่องได้แล้ว
ไทเกอร์กลัวว่าเรื่องพฤติกรรมของเขาในอดีต จะทำให้ตัวเองไม่ถูกเลือกมาอยู่ในหอเกียรติยศ แต่สุดท้าย คณะกรรมการก็เลือกเขา
คือแม้จะมีดราม่าใดๆ ก็ตาม แต่สิ่งบวกๆ ที่ไทเกอร์มอบให้โลกนี้ ถือว่ามีเยอะกว่า
อย่างน้อยที่สุด ไทเกอร์ก็ยังแสดงให้เห็นว่า แม้จะเจอปัญหารุมเร้า แต่ถ้าคุณไม่ยอมแพ้ ก็สามารถเอาชนะมันได้เสมอ
9 มีนาคม 2022 ที่สำนักงานใหญ่ของพีจีเอ มีการจัดพิธีฉลองการเข้าหอเกียรติยศให้ไทเกอร์ โดยมีคนในวงการมากันคับคั่ง สปอนเซอร์ นักข่าว เพื่อนนักกอล์ฟ ทุกคนมาร่วมยินดีกับไทเกอร์
เมื่อได้เวลา ไทเกอร์ขึ้นไปกล่าวสปีชว่า “ผมไม่มีวันมายืนอยู่ตรงนี้ได้ ถ้าไม่มีการเสียสละของแม่ ที่พาผมไปแข่งในทัวร์นาเมนต์เยาวชนตลอดหลายปี และถ้าไม่มีพ่อ ที่วันนี้ท่านไม่อยู่แล้ว แต่ก็เป็นคนปลูกฝังจิตวิญญาณของการเป็นนักสู้ไว้ในตัวผม”
“สิ่งพ่อแม่ของผมสอนมาตลอด คือ คุณไม่มีวันประสบความสำเร็จอะไรได้เลย ถ้าไม่ทุ่มเทชีวิตให้มัน เพราะในโลกนี้ สวรรค์จะไม่ประทานอะไรให้คุณทั้งนั้น แต่คุณต้องสร้างมันขึ้นมาเองเท่านั้น”
15 แชมป์เมเจอร์, 82 แชมป์ในพีจีเอ ทัวร์ และนักกอล์ฟที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาล นี่คือความยิ่งใหญ่ ที่คงไม่มีใครมาเทียบเคียงได้อีกแล้ว
ระหว่างที่ไทเกอร์กำลังพูดอยู่ กล้องจับภาพมาที่กุลธิดาในวัย 76 ปี ที่นั่งอยู่ด้านล่างเวที
ในวงการกอล์ฟ นี่เป็นภาพที่ไม่แปลกเลย ถ้าคุณเห็นไทเกอร์ไปไหน ก็จะเห็นกุลธิดาเสมอ เธอพร้อมจะไปให้กำลังใจลูกชายทุกที่ ทุกเวลา
จริงๆ แล้ว ก็ถือว่าตลกดี เพราะเมื่อปี 2010 ที่สำนักงานใหญ่ของพีจีเอ ที่เดียวกันนี้เลย ตอนที่ไทเกอร์แถลงข่าวขอโทษสังคมที่นอกใจภรรยา วันที่ไม่มีใครเคียงข้างเขาสักคน แต่วันนั้นกุลธิดาก็อยู่ เพื่อซัพพอร์ทลูกชาย
จากนั้นในปี 2022 อีก 12 ปีต่อมา วันที่ไทเกอร์ถูกรายล้อมด้วยผู้คน ที่มายินดีที่เขาถูกเลือกเข้าหอเกียรติยศ กุลธิดาก็ยังอยู่เช่นกัน
ไม่ว่าจะโมเมนต์ดี หรือ โมเมนต์ร้าย ในฐานะแม่ เธอจะไม่ปล่อยให้เขาเผชิญกับมันอย่างเดียวดาย
กุลธิดาเล่าว่า “ฉันเป็นคนที่แสดงอารมณ์ไม่ค่อยเก่ง ตอนที่ไทเกอร์คว้าแชมป์เดอะ มาสเตอร์ส เป็นครั้งแรก พ่อของไทเกอร์น้ำตาไหล ฉันก็ดีใจนะ แต่ไม่ได้ร้องห่มร้องไห้แบบนั้น หรือตอนที่เขาคว้าแชมป์ยูเอส โอเพ่น ที่เพพเบิ้ล บีช ในขณะที่ผู้คนโห่ร้องให้เขาทั้งแฟร์เวย์ ฉันก็แค่คิดว่า อืม ก็ดีแล้วที่ชนะ”
“ฉันอาจจะไม่ค่อยแสดงออกมากนัก แต่รู้ไหม ว่าฉันอธิษฐานกับพระพุทธเจ้าตลอด ว่าถ้าหากชาติหน้ามีจริง อยากให้ไทเกอร์ กลับมาเกิดเป็นลูกชายของฉันอีกครั้ง”
“สิ่งที่ฉันบอกกับไทเกอร์เสมอ และจะบอกตลอดไป ก็คือ ลูกสามารถเชื่อใจแม่ได้เสมอ และแม่คนนี้จะไม่มีวันทำร้ายลูกอย่างแน่นอน”
วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2025 กุลธิดาเสียชีวิตด้วยวัย 78 ปี เธอจากโลกใบนี้ไปด้วยความรักและความอาลัย จากทุกคนในครอบครัววูดส์
ถ้าดูเรื่องราวในชีวิตของกุลธิดา จะพบว่า เธอไม่ได้สมหวังกับทุกอย่างที่ต้องการ
กุลธิดาเจอความลำบากไม่น้อย เธอโดนหมางเมินจากพ่อแม่ตัวเองตั้งแต่เด็ก จากนั้นพอแต่งงานกับเอิร์ล ก็โดนสามีนอกใจไปหาผู้หญิงคนอื่นซ้ำๆ โดยไม่เคยให้เกียรติเธอเลย ยังไม่นับปัญหาการเงินที่รุมเร้ามากๆ ในช่วงที่ไทเกอร์ยังไม่ได้เทิร์นโปร
แต่แม้จะเจอเรื่องราวต่างๆ กุลธิดาก็ไม่เคยแสดงความอ่อนแอให้เห็น มีปัญหาอะไร เธอก็ฝ่าฟันมันไป เธอพยายามทำตัวเข้มแข็ง เพื่อเป็นเสาหลักให้ลูกชายได้ยึดเหนี่ยวเสมอมา
กุลธิดาตั้งใจทำหน้าที่หลักของเธอ นั่นคือซัพพอร์ทไทเกอร์ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้าย
และเธอก็ทำมันได้ดีมากจริงๆ จนไทเกอร์ประสบความสำเร็จสูงสุด เป็นหนึ่งในนักกีฬาที่โด่งดังที่สุดในประวัติศาสตร์ แถมยังมีชีวิตครอบครัวที่ดี มีลูกๆ ที่น่ารักถึง 2 คน
สำหรับแม่คนหนึ่ง เมื่อได้เห็นลูกชายฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย จนท้ายที่สุด ได้ค้นพบความสุขที่แท้จริงในชีวิต ก็ไม่มีอะไรที่เธอต้องการมากไปกว่านี้อีกแล้ว
[ จบซีรีส์ กุลธิดา – ไทเกอร์ วูดส์ ]
More Stories
ด้อยค่าระบบหลัง 3 หรือเปล่า “แม็ค ไกวร์” พูดตรงๆ ถึงแนวทาง “อโมริม” ที่ตอนนี้ไม่เวิร์กอย่างแรง
เหล่าแข้ง บีจี ปทุม ยูไนเต็ด และ เมืองทอง ยูไนเต็ด เดินทางถึงยังสนามบีจี สเตเดี้ยม เป็นที่เรียบร้อย ก่อนทำศึกบิ๊กแมตช์ ไ…
ข่าวดี.! โรดรี้ เริ่มซ้อมเดี่ยวกับทีมได้แล้ว มีลุ้นคืนสนามท้ายซีซั่น